Huawei MateBook กลับสู่ Microsoft Store แม้ว่าทุกอย่างระบุว่าจะทำจนกว่าสต็อกที่เก็บไว้จะหมด

สารบัญ:
เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม เราพบว่า Huawei หายไปจาก Microsoft Store อุปกรณ์ของแบรนด์เอเชียไม่มีจำหน่ายแล้ว อันเป็นผลมาจากสงครามการค้าที่ยืดเยื้อระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนซึ่งอ้างว่าเป็นเหยื่อรายใหญ่รายแรกใน Huawei
พบแล็ปท็อป Huawei ทุกรุ่นที่เคยพบใน Microsoft Store หายไปอย่างไร้ร่องรอย มันลอยอยู่ในอากาศ สงสัยว่าพวกเขาจะปรากฏขึ้นอีกครั้งหรือไม่และหลังจากผ่านไปสองสามวันเราก็เห็นว่าเป็นอย่างไร พวกเขากลับไปที่หน้าต่าง Microsoft Store แม้ว่าทุกอย่างดูเหมือนจะระบุว่าเป็นเพียงช่วงเวลาที่ จำกัด
วิ่งก่อนบิน
ความจริงแล้ว The Verge เป็นสื่อที่สะท้อนข่าวนี้ บนเว็บไซต์ Microsoft Store ในสหรัฐอเมริกาก่อนอื่นแล็ปท็อปของ บริษัท เอเชียปรากฏขึ้นอีกครั้ง และเรามุ่งเน้นไปที่ตลาดสหรัฐอเมริกา ตัวอย่างเช่น ในสเปน MateBook ยังไม่พร้อมให้บริการ
และไม่ มันไม่เกี่ยวอะไรกับระยะเวลาผ่อนผันที่ฝ่ายบริหารของทรัมป์ให้ไว้กับ Huawei เนื่องจากการยับยั้งจะไม่มีผลจนกว่าจะถึงเดือนสิงหาคม 2019 เห็นได้ชัดว่าและรอว่าเรื่องที่ครบกำหนดแต่เพียงผู้เดียวจะเป็นอย่างไร ในที่สุดปัญหาเศรษฐกิจก็คลี่คลาย การกลับมาของ Huawei อาจเป็นเพียงชั่วคราว
สามารถซื้อ [Huawei Matebook(https://www.xataka.com/ordenadores/huawei-matebook-x-analisis-un-ultraportatil-fantastico-contagiado-por-la-fiebre -usb -c) รุ่นที่มีจำหน่ายอีกครั้งอาจเป็นขั้นตอนชั่วคราว เนื่องจาก Microsoft แจ้งว่าเป็นการขายสินค้าที่มีเก็บไว้ในสต็อก ซึ่งหมายถึง เมื่อสินค้าหมด จะหายไปจากแค็ตตาล็อกอีกครั้งและครั้งนี้โดยไม่มีโอกาสกลับมาอีก อย่างน้อยก็จนกว่าวิกฤตจะคลี่คลาย
แม้จะมีรายงานจาก Huawei และบริษัทที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของอุปกรณ์ในปัจจุบัน (แล็ปท็อป โทรศัพท์ แท็บเล็ต...) ซึ่งยืนยันว่า สิ่งเหล่านี้ ใช้ต่อได้ไม่มีปัญหา ที่แท้บริษัทจีนเตรียมรับผลกระทบด้านลบต่อยอดขายที่อาจเป็นประวัติศาสตร์
มีการพูดถึงยอดขายที่ลดลงถึง 60% ของผู้ผลิตรายหนึ่งที่ต้องการครองบัลลังก์ Apple และแซงหน้า Samsung ในฐานะผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำของโลก คงต้องรอดูกันต่อไปว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนเส้นทางไปอย่างไร และถ้าหากโปรเจ็กต์ใหม่ที่พวกเขากำลังทำอยู่ (Huawei Mate X หรือระบบปฏิบัติการใหม่) จะช่วยลดความเฉียบขาดนี้ลงได้ ลดลง
ที่มา | The Verge